6 สิ่งของที่ใช้แทนเงินสด
เหลือเชื่อ!! 6 สิ่งของที่ใช้แทน "เงิน" ได้ในบางพื้นที่ของโลก
ชีส
ตั้งแต่ปี 1953 เป็นต้นมา ธนาคารท้องถิ่นในอิตาลีที่ชื่อ Credito Emiliano หรือ Credem รับชีสพาร์มีจาโน่-เรจจาโน่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ธนาคารถึงกับสร้างห้องเก็บชีสแบบควบคุมอุณหภูมิโดยเฉพาะด้วย เพราะชีสยิ่งเก็บไว้นานยิ่งอร่อยและยิ่งมีค่ามากขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับเงินสดที่ถ้าเก็บในบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยดีๆ ยิ่งเก็บไว้นานก็จะยิ่งงอกเงยมากขึ้น แถมประชาชนแถบนี้ก็ทำฟาร์มโคนมเป็นหลักกันอยู่แล้วด้วย ถือว่าเป็นโปรโมชั่นที่ดึงดูดให้ชาวไร่หันมากู้เงินจากธนาคารนี้มากขึ้น โดยไม่ต้องเอาทรัพย์สินที่สำคัญต่อการหาเลี้ยงชีพมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ธนาคารจะรับชีสใหม่ๆ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และตีราคาให้เท่ากับชีสอายุเยอะๆ แบบที่นิยมกันในตลาด จากนั้นจะให้เงินกู้ในอัตรา 70%-80% ของมูลค่าชีส จากนั้นก็จะเก็บชีสไว้ในโกดังปรับอุณหภูมิที่มีผู้เชี่ยวชาญดูแลจำนวน 2 โกดังที่สามารถเก็บรักษาชีสขนาด 80 ปอนด์ได้มากถึง 440,000 ชิ้น และที่ผ่านมามีชีสเสียเพียงแค่ 1% เท่านั้น
ขนมหวาน
ในปี 2008 ประเทศอาร์เจนติน่า โดยเฉพาะที่กรุงบัวโนสไอเรสขาดแคลนเหรียญอย่างหนัก ผู้ซื้อเมื่อซื้อของแล้วก็ต้องการเงินทอนเป็นเหรียญให้ได้ ส่วนผู้ขายก็ไม่มีเหรียญจะทอน ทำให้ร้านค้ามากมายหันมาให้ขนมหรือลูกอมที่มักวางขายตรงแคชเชียร์ในมูลค่าที่เท่ากันให้กับลูกค้าแทน เพื่อเลี่ยงการทอนเป็นเงิน
แต่สำหรับธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่มีขนมแทนเงินก็ถือว่าเป็นเรื่องวิกฤตมาก ธนาคารเองถึงกับออกกฎว่าจะไม่ทอนเงินเกิน 20 เปโซต่อคนต่อวัน รถเมล์ส่วนมากก็ต้องยอมให้ผู้โดยสารนั่งฟรีแทบทั้งวันเพราะไม่มีเหรียญมาทอน เนื่องจากธนาคารให้เหรียญมาแค่ 10% ของที่ต้องใช้ปกติ ส่วนใครที่ยังพอมีเหรียญติดกระเป๋าก็ถึงกับต้องเก็บอย่างดีไม่ให้ใครได้ยินเสียงกุ๊งกิ๊งของเหรียญในกระเป๋า ไม่งั้นอาจโดนร้านค้าบังคับจ่ายเป็นเหรียญ และอาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งได้
โคเคน
ณ เมือง Guerima เมืองเล็กๆ ขนาด 1,000 คนที่ตั้งอยู่ในป่าทึบในประเทศโคลอมเบีย ที่นี่เต็มไปด้วยต้นโคคา ต้นไม้ที่ใช้ทำยาเสพติดโคเคน ใช้โคเคนแทนเงินในการซื้อขายต่างๆ
เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แถมเต็มไปด้วยกองกำลังที่เหลือจากการต่อสู้เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ทำให้ไม่มีเงินเข้าถึงพื้นที่นี้นานมากแล้ว การทำธุรกรรมทุกอย่างของชาวบ้านที่นี่จึงต้องใช้โคเคนแทน โดยโคเคน 1 กรัมจะซื้อน้ำอัดลมได้ 1 แก้ว
ยาสูบ
ในยุคสร้างอาณานิคม รัฐแมรี่แลนด์, นอร์ธแคโรไลน่า และเวอร์จิเนียอนุญาตให้ใช้ยาสูบในการซื้อขายแทนเงินตราได้ ตั้งแต่ปี 1619 เป็นต้นมา รัฐเวอร์จิเนียถึงกับออกกฎหมายว่ายาสูบสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเลยด้วยซ้ำ จากนั้นในปี 1727 รัฐเวอร์จิเนียก็ออกระบบเงินตราแบบใหม่ที่เรียกว่าธนบัตรยาสูบ นั่นคือใบรับรองคุณภาพยาสูบจากผู้ตรวจของรัฐบาล ที่ผู้คนสามารถนำไปใช้แทนธนบัตรจริงๆ ได้ แต่ในที่สุดก็เลิกใช้ยาสูบแทนเงินกันช่วงปลายศตวรรษที่ 18 เพราะพกพายาก และมูลค่าไม่นิ่ง
คูปองร้านค้า
ที่แคนาดามีห้างที่ขายเกี่ยวกับอุปกรณ์รถยนต์ที่มีสาขามากมายอย่างห้าง Canadian Tire อยู่ ห้างนี้ก็คล้ายกับห้างอื่นๆ ที่มักมีคูปองเงินสดให้ลูกค้าใช้แทนเงินสดในการซื้อครั้งต่อไป แต่คูปองของห้างนี้ออกแบบมาให้คล้ายเงินจริง แถมนอกจากใช้ที่ Canadian Tire โดยตรงได้แล้ว ยังใช้กับปั๊มน้ำมันหรือร้านค้าในเครืออีกมากมายได้อีกด้วย
แต่ถ้าแค่นั้นมันก็ไม่ต่างจากคูปองบ้านเราเลย ที่แตกต่างก็คือมีร้านค้าอื่นๆ รับเงิน Canadian Tire แทนเงินจริงๆ ด้วย โดยเฉพาะตามร้านเหล้าและบาร์ ลูกค้าสามารถใช้เงิน Canadian Tire แทนเงินจริงได้เลย eBay Canada เองก็รับชำระสินค้าด้วยเงิน Canadian Tire มาตั้งแต่ช่วงปี 90 แถมยังเคยมีการปลอมเงิน Canadian Tire ด้วยซ้ำ เคยมีอาชญากรชาวเยอรมันคนหนึ่งปลอมเงิน Canadian เป็นมูลค่ากว่า 11 ล้านดอลลาร์ เพื่อเอาไปใช้ซื้ออะไหล่รถยนต์
ฝาขวดเบียร์
เครื่องดื่มบ้านเราหลายยี่ห้อนิยมมีรหัสให้ส่งชิงโชคใต้ฝา หรืออาจจะให้สะสม 10 ฝาเพื่อแลกเครื่องดื่มอีก 1 ขวด แต่ผู้ผลิตเบียร์ที่ประเทศแคเมอรูนใส่รางวัลไว้ใต้ฝาเบียร์แทบทุกฝา รางวัลต่ำสุดคือได้เบียร์ฟรีอีก 1 ขวดทันที ส่วนรางวัลใหญ่ๆ ก็เช่นได้มือถือรุ่นใหม่หรือรถหรูแพงๆ ทำให้แทบทุกคนที่ดื่มเบียร์สามารถได้รางวัลซักอย่างทันทีโดยไม่ต้องชิงโชคหรือสะสม และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ฝากเบียร์แทนเงินสดในการซื้อขายต่างๆ ค่ะ นักดื่มที่เมาแล้วสามารถใช้ฝาเบียร์เป็นค่าแท็กซี่ได้เลย ตำรวจเองก็รับจ่ายค่าปรับด้วยฝาเบียร์ แทบทุกบริการรับฝาเบียร์แทนเงิน (แน่นอนว่ามีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ)